ประวัติความเป็นมาของการทำศัลยกรรม
Credit Photo : Pinterest
ศัลยกรรมมีมายาวนานมาก ย้อนกลับไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (ประมาณปี 1900) เป็นช่วงที่มีทหารได้รับบาดเจ็บจากสงครามจำนวนมาก การทำศัลยกรรมได้เริ่มให้ความสำคัญในการช่วยฟื้นฟูรูปร่างภายนอกของทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลจากความสามารถของการแพทย์ในการทำปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ หลังจากนั้นมีการพัฒนาแนวคิดในการประยุกต์ใช้เทคนิคการผ่าตัดในกลุ่มคนทั่วไปเมื่อสงครามสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่การทำศัลยกรรมตกแต่งและการศัลยกรรมเพื่อความงามได้เริ่มเกิดขึ้นต่อมา
ประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของศัลยกรรมเสริมความงามจริงๆ เริ่มมีรูปร่างตั้งแต่ยุคทศวรรษ ค.ศ. 1960 และ 1970 มีการพัฒนาวิทยาศาสตร์ที่สำคัญมากมายในช่วงเวลานี้ด้วย ซิลิโคนเป็นสารใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นและกำลังเป็นที่นิยมในการใช้ในกระบวนการศัลยกรรมเสริมความงามบางชนิด ในตอนแรก เป็นการใช้ในการรักษาความไม่สมบูรณ์ของผิวหนัง จากนั้นในปี พ.ศ. 1962 ดร. โทมัส โครนิน ได้สร้างและเปิดเผยอุปกรณ์ซิลิโคนสำหรับการศัลยกรรมเต้านมใหม่ ในช่วงระยะเวลาถัดมา อุปกรณ์ซิลิโคนได้รับการพัฒนาสำหรับใช้ในทุกส่วนของใบหน้าและร่างกายที่คิดค้นได้ทั้งหมด
ในยุคปัจจุบันศัลยกรรมเสริมความงามได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เทรนด์ในการศัลยกรรมเสริมความงามคือการเลือกใช้กระบวนการที่น้อย เพื่อป้องกันการแสดงเครื่องหมายของการแก่อย่างชัดเจน ในความเป็นจริง กระบวนการที่ได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้เป็นการใช้สารฉีดเข้าตามผิวหนัง เช่น สารเติมริ้วรอยบนใบหน้าและเป็นที่รู้จักคือ Botox
Credit Photo : Pinterest
เรื่องของประวัติศาสตร์การทำศัลยกรรมก็จะประมาณนี้ซึ่งได้มีการทำมาแล้วตั้งแต่ยุคสมัยก่อน และศัลยกรรมแพทย์ก็ได้มีการค้นพบเทคนิคใหม่ๆ พัฒนากันมาตามแต่ละยุคสมัย
ศัลยกรรมเสริมความงาม
การศัลยกรรมเสริมความงามเป็นหนึ่งในแนวทางการรักษาที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เรามักเห็นการทำศัลยกรรมเสริมความงามในการปรับเปลี่ยนรูปร่างของใบหน้าและร่างกายเพื่อให้มีลักษณะที่ดูดีและสมดุลมากขึ้น การผ่าตัดเสริมความงามสามารถทำได้หลากหลาย ได้แก่ เสริมหน้าอก, ลดไขมัน, เพิ่มปริมาณของริ้วรอยด้วยไขมันเอง, การรักษารอยแก้มริ้วรอย และอื่น ๆ
หากมองในมุมมองทางความสุขและความเชื่อมั่นของตนเอง การศัลยกรรมเสริมความงามอาจช่วยเสริมความเชื่อมั่นของบางคนได้ การปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของตนเองอาจมองเห็นว่าเป็นทางที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวัน แต่ก็ควรพิจารณาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด
ศัลยกรรมบนใบหน้า มีอะไรบ้าง
การปรับลักษณะใบหน้าผ่านทางศัลยกรรมเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เป็นการปรับเปลี่ยนลักษณะและรูปร่างของใบหน้าเพื่อให้มีลักษณะที่ดูน่าสนใจและสวยงามมากขึ้น ศัลยกรรมบนใบหน้าที่นิยิมทำกัน
- ลดริ้วรอยและรอยตีนในตา
- ศัลยกรรมจมูก
- ศัลกรรมตา ยกตากระชับ ตา2ชั้น
- ศัลยกรรมหน้าผาก
- ศัลยกรรมปาก
ข้อควรรู้ก่อนทำศัลยกรรม
- ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการศัลยกรรมที่ต้องการทำอย่างละเอียด รวมถึงขั้นตอน วิธีการ และผลลัพธ์ที่คาดหวัง
- ทราบถึงความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำศัลยกรรม เช่น การติดเชื้อ หรือปัญหาที่เกิดจากการใช้วัสดุเสริม
- ควรพิจารณาถึงความพร้อมที่ต้องใช้ในการทำศัลยกรรม เช่น เวลา การเงิน และการรับมือกับการฟื้นตัว
- ควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้การศัลยกรรมเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ข้อดี ข้อเสียของการทำศัลยกรรม
การทำศัลยกรรมเป็นกระบวนการที่มีข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ซึ่งควรพิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจที่จะทำ
ข้อดีของการทำศัลยกรรม
- การทำศัลยกรรมสามารถช่วยปรับรูปร่างของร่างกายให้มีลักษณะที่ตรงตามความต้องการของเรา เช่น เสริมหน้าอก ลดไขมัน หรือปรับลักษณะใบหน้า
- การปรับลักษณะร่างกายที่ไม่พอใจ สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสุขในชีวิตประจำวัน
ข้อเสียของการทำศัลยกรรม
- การทำศัลยกรรมมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหลังการทำ เช่น การติดเชื้อถ้าดูแลรักษาไม่ดี
- ศัลยกรรมบางอย่าง มีค่าใช้จ่ายสูงและอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวหลังการทำที่นาน
- กรณีที่ผลลัพธ์หลังการทำศัลยกรรมอาจไม่ได้ตรงตามความคาดหวัง อาจจะผิดหวังได้ต้องเผื่อใจไว้บ้าง
ประวัติความเป็นมาของการทำศัลยกรรม Reference : https://www.verywellhealth.com/the-history-of-plastic-surgery-2710193